วันพุธที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2555

Paul scholes (2)

ไม่ง่ายที่นักฟุตบอลอาชีพคนหนึ่ง จะสามารถทำผลงานได้เข้าตาตำนานลูกหนังโลกอย่าง เซอร์ บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน ได้

         แต่อดีตดาวเตะทีมชาติอังกฤษชุดแชมป์โลก และอดีตสตาร์ แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดแชมป์ยุโรปครั้งแรก กลับประทับอกประทับใจไอ้หนุ่มหัวแดงนาม พอล สโคลส์ เป็นอย่างยิ่ง
         "เขาคอนโทรลลูกบอลได้เฉียบขาด แถมยังผ่านบอลได้สุดแจ่ม นี่คือนักเตะที่เล่นฟุตบอลได้เนียนตาดีเหลือเกิน" เซอร์ บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน นิยามนักเตะรุ่นหลานเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบ
         สโคลส์ เป็นผลิตผลชิ้นงามจากโรงเรียนลูกหนัง "ปีศาจแดง" เจเนอเรชั่นเดียวกับ เดวิด เบ็คแฮม, ไรอัน กิ๊กส์, นิคกี้ บัตต์ รวมถึงสองศรีพี่น้อง แกรี่ กับ ฟิล เนวิลล์ ในช่วงกลางยุคไนน์ตี้ส์
         หนุ่มจอมห้าวผู้เกิดแถบ ซัลฟอร์ด เหมาสองลูกในเกมประเดิมสนามของตัวเองกับสโมสร โดยเป็นการเจอกับ พอร์ทเวล ใน ลีก คัพ เมื่อฤดูกาล 1994/95  ขณะที่ประตูแรกของ สโคลส์ ในเกมลีก เกิดขึ้นกับ อิปสวิช ในปีเดียวกัน
         ฤดูกาลที่แจ่มสุดๆ ของ สโคลส์ ใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แน่นอนว่า ต้องมีฤดูกาล 1995/96 ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้า "ดับเบิ้ลแชมป์" ได้ ซึ่งดาวเตะหัวแดงเพลิง เข้ามาเสียบแทนการหายไปของ เอริค คันโตน่า ที่โดนแบนได้อย่างสมบูรณ์แบบ
         สโคลส์ จบฤดูกาลที่น่าจดจำดังกล่าว ด้วยการคว้าอันดับรองดาวซัลโวของสโมสร โดยทำไป 14  เม็ด เป็นรองเพียง คันโตน่า เพียงคนเดียว
         "สโคลซี่ย์" ยังฉายฟอร์มสุดยอดในฤดูกาลที่ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้า "เทรเบิ้ลแชมป์" เมื่อปี 1999 แม้ว่า จะอดเล่นในนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก เพราะติดโทษแบน
         ในฤดูกาล 2003 ที่ "ปีศาจแดง" กลายร่างเป็นเทพในพรีเมียร์ลีกนั้น 20 ประตูทองของ สโคลส์ ก็ถือว่า มีความสำคัญสุดยอดเช่นเดียวกัน
         พูดน้อย แต่ต่อยหนัก คือคุณสมบัติของดาวเตะผู้เป็นที่ใฝ่ฝันของกุนซือทุกคนบนโลกรายนี้
         สโคลส์ สามารถทำประตูได้จากทุกระยะของสนาม
         ในระดับชาติ สตาร์รายนี้ รับใช้ทีมชาติอังกฤษไปทั้งหมด 66 วาระ ก่อนประกาศขอเลิกหลังจบศึก ยูโร 2004 ที่ โปรตุเกส
         นับตั้งแต่นั้น สโคลส์ ก็หันมาทุ่มเทให้กับการรับใช้สโมสร แมนฯ ยูไนเต็ด แบบเต็มตัว แม้จะถูกจีบให้หวนคืนทีมชาติหลายครั้ง แต่ก็ส่ายหน้าตอบทุกครั้ง
         ปัญหาทางสายตาของ สโคลส์ ทำให้เขามีส่วนร่วมกับฤดูกาล 2005/06 เพียงน้อยนิด
         แต่ "สโคลซี่ย์" ก็รีเทิร์นกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2006/07
         ไฮไลต์ส่วนตัวคือการซัดเปิดแผล ลิเวอร์พูล ในชัยชนะ 2-0 เมื่อเดือนตุลาคม 2006 รวมถึงการวอลเล่ย์เต็มเหนี่ยวในเกมบุกถล่ม แอสตัน วิลล่า 3-0 ในอีกสองเดือนถัดมา ซึ่งประตูนี้ ถูกคัดเลือกให้เป็นประตูยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลโดยแฟนๆ ของสโมสรด้วย
         ผลงานที่ใช้เท้าพูดแทนปาก ส่งผลให้เพื่อนนักเตะ และนักข่าว เลือกให้ สโคลส์ เข้าป้ายอันดับสามสำหรับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมสมาคมนักฟุตบอลอาชีพหรือ พีเอฟเอ และอันดับสี่สำหรับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสมาคมนักข่าว ซึ่งทั้งสองรางวัล ตกเป็นของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้
         สำหรับฤดูกาล 2007/08 นี้ "สโคลซี่ย์" มีโอกาสลบล้างความผิดหวังที่เคยพลาดนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อเก้าปีก่อน หลังจากที่ตะบันประตูดับ บาร์เซโลน่า พร้อมกับส่ง "ปีศาจแดง" ทะยานสู่ มอสโก อย่างองอาจ และคว้าชัยชนะร่วมกับทีมเหนือ เชลซี ไปได้
         ในฤดูกาลที่ 2008/09 สโคล มีอายุ 34 ปีแล้ว นักเตะรุ่นเดียวในขณะนี้มีแค่ ไรอัน กิ๊กส์ เท่านั้น ซึ่งในฤดูกาลนี้สโคลได้ลงเล่นไปทั้งสิ้น 35 นัด ทำได้ 3 ประตู ต้องดูกันต่อไปว่า ฤดูกาล 2009/10 สโคล จะยังไม่ลงเล่นต่อไปอีกหรือไม่    


สมัยวัยละอ่อน   ไรอัน กิกส์ บัต  แบคแฮม แกรี่-ฟิล เนวิลล์ และ สโคลส์

 กับเชอริงแฮม

จากอดีตสู่ปัจจุบัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น